รังไหมเป็นสิ่งได้จากธรรมชาติ
โดยเส้นใยไหมสามารถนำมาทอผ้าได้ และประโยชน์ของรังไหมอีกอย่างซึ่งกำลังเป็นที่นิยมคือนำมาใช้กับอุตสาหกรรมความงาม
เพราะรังไหมประกอบด้วยโปรตีนคุณภาพสูง
และมีความเชื่อว่ารังไหมมีสารต้านอนุมูลอิสระ คืนความชุ่นชื่นให้กับผิวพรรณได้
รังไหมมีหลายสี และจากหลายประเทศด้วย
ส่วนรังไหมในประเทศไทยถือเป็นรังไหมที่มีคุณภาพสูงในระดับต้นๆ สีของรังไหม
มีทั้งสีทอง สีขาว ฯลฯ แต่ไม่ว่าด้วยรังไหมจากที่ใด
ก็ล้วนแต่มีประโยชน์ในด้านการบำรุงรักษาผิวพรรณได้เช่นเดียวกัน
คุณสมบัติทางโครงสร้างธรรมชาติ
เบาบางต่อการสัมผัสกับผิว มนุษย์ประกอบด้วย กรดอะมีโน ชนิดที่สำคัญคือเซอริซิน (Sericin) และไฟโบรอิน (Fibroin) สามารถอุ้มน้ำได้ดีรักษาความชุ่มชื้นของผิว
กระตุ้นการสร้างCollagenและมี Whitening agentช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส ยับยั้งการเกิดกระบนใบหน้า มีสารArginineและ Lysine ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต่อต้านเชื้อโรคมีสาร
Cystine ทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดสิวเสี้ยน ได้ด้วยวิธีธรรมชาติ
รังไหมประกอบด้วยกรดอะมิโน
18 ชนิด มีสารต้านอนุมูลอิสระ
และสารช่วยขจัดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังบางชนิด
กรดอะมิโนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในร่างกายมนุษย์
และมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ดีมาก จึงนิยมใช้เป็นสารเติมความชุ่มชื่นในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
ประโยชน์รังไหมมีกรดอะมิโน 18 ชนิด ที่ตรงกับที่พบในร่างกายมนุษย์
ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงคอลลาเจน ช่วยคืนความชุ่มชื่นให้กับเซลล์ผิว
• มีสารช่วยดูดซับความชื้นในอากาศ สามารถซึมเข้าสู่เซลล์ผิวหน้าได้ทันที
• มีสารช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง
ลดการอักเสบของผิวพรรณ
• ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ลดการเกิดเม็ดสี
• ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม สดใส เปล่งปลั่ง กระชับ
• ช่วยปกป้องผิว เพิ่มความสามารถเก็บกักความชุ่มชื่นของผิวหน้า ชะลอริ้วรอย
• ทำหน้าที่เหมือนฟิลม์ ในการปกป้องและเคลือบผมให้เรียบสวย จัดทรงง่าย
มีน้ำหนัก ช่วยให้ผมขาดเสียกลับมาแข็งแรงเงางามมีน้ำหนัก





0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น