หม่อนเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง ใบหม่อนนอกจากใช้เลี้ยงไหมแล้ว ยังนำมาทำเป็นใบชา ชงกับน้ำดื่ม ชาใบหม่อน ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดความดันโลหิต แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้ไอ และบำรุงธาตุให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังใช้ประกอบเป็นอาหารได้หลายชนิด มาดูเมนูกัน ใบหม่อนอ่อนใส่ต้มยำก็ได้ แกงอ่อม ต้มแซ่บต่างๆ ทำให้กลมกล่อมแทนชูรส (โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี) ใบอ่อน ยอดอ่อนมาทำแกงจืดใส่หมูสับ ใบแก่ต้มกับน้ำและน้ำตาลดื่มแทนน้ำหวานหอมอร่อย หรือนำมาผัดน้ำมันหอย ใบที่ไม่อ่อนไม่แก่เกินก็ตากไม่ให้โดนแดดโดยตรงจะได้เขียวๆหรืออบก็ได้ ต้มเป็นน้ำชาผสมกับใบเตยเป็นเครื่องดืมประจำบ้าน คนเกาหลีเอามาชุบแป้งทอด ใส่ในไข่เจียว ใส่ในห่อหมก ทำข้าวยำก็ได้ มีประโยชน์มากมายและนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายขนาดนี้ สมควรปลูกติดบ้างไว้สักต้น
ใบหม่อนสามารถเพิ่มรส ชาติของอาหาร และมีคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากมีโปรตีนและแร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียมสูง ประเทศจีนถือเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็น ใช้ใบหม่อนเป็นสมุนไพรรักษาอาการไอ ความดันเลือดสูง และคลายกังวล (ตามเภสัชตำรับของประเทศจีนยังใช้ใบหม่อน แก้โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ขับร้อนจากปอด อาการไอแห้ง เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ ตาอักเสบ ตามัว โดยใช้ในขนาด 4.5 – 9 กรัม) ผู้ที่ขับรถยนต์ในเวลากลางคืน หรือใช้สายตาในการทำงานมากโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ หากรู้สึกอ่อนล้า ให้นำส่วนยอดอ่อนของหม่อนมาต้มเพื่อดื่มและล้างตา ก็จะสามารถช่วยผ่อนคลายและช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี
รายงานการศึกษาวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า ใบหม่อนมีคุณสมบัติในการป้องกันและรักษาโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ช่วยลดคลอเลสเตอรอล และความดันโลหิตสูง เพราะมีสารออกฤทธิ์กลุ่มฟลาโวนอยด์ ไฟโตสเตียรอล ไตรเทอปีน อัลคาลอยด์เซราไมด์และน้ำมันหอมระเหย ดังนั้นจึงมีการผลิตชาจากใบหม่อนเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เนื่องจากหม่อนเป็นพืชปราศจากสารพิษ มีแร่ธาตุและวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายโดยรวมสูงกว่าชาทั่วไป อาทิ นอกจากนี้ยังมีสารอาหารต่าง ๆ ในปริมาณสูง เช่น คาร์โบไฮเดรต เพคติน โปรตีน เส้นใยอาหาร แคโรทีน แคลเซี่ยม โปแตสเซียม โซเดียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 และวิตามินซี และทีสำคัญคือ พบกรดอะมิโน ที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ครบทุกชนิดคือ ไอโวโลศซีน (Ivoleucine) ลูซีน (leucine) เมไธโอนีน (Methionine) ซีสตีน (Cystine) ฟีนิลอะลานีน (Phenylalaine)ไธโรซีน (Tyrosine) ธรีโอนีน (Threonine) ทริฟโตเฟน (Tryptophan) ไลซีน (Lysine) และวาลีน (valoine)
ศึกษาอ่านเพิ่มเติม http://mulberryproduct.com/






0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น